ไฟกระชากจากฟ้าผ่า

ความเสียหายจากไฟกระชากจากฟ้าผ่า - คลื่นแรงดันไฟฟ้าลัดวงจร

  1. รูปคลื่นของแรงดันไฟฟ้าจากฟ้าผ่า/กระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าแสดงให้เห็นถึงรูปคลื่นของแรงดันไฟฟ้าที่สูงมาก คลื่นของแรงดันไฟฟ้าที่สูงมากถูกเรียกว่าไฟกระชากซึ่งเข้าใกล้ความสูงสูงสุด (แรงดันไฟฟ้ายอดคลื่น) เป็นเวลาไมโครวินาที ที่จะหายไปในเวลาไมโครวินาที ไฟกระชากเป็นไฟฟ้าลัดวงจรผิดปกติที่เกิดขึ้นในทันทีในวงจรไฟฟ้า/ระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าอาจมี < dielectric breakdown >, < multi-function>, < degradation> เนื่องจากการเกิดไฟกระชาก
  2. คลื่นแรงดันไฟฟ้าที่สูงมากเกิน (แรงดันไฟกระชากสูงมาก) เป็นคลื่นความถี่สูง สามารถส่งผ่านจากหม้อแปลงหลักถึงหม้อแปลงรองได้โดยง่าย ซึ่งอาจทำให้ชิ้นส่วนกึ่งนำไฟฟ้าเกิดความเสียหายที่รุนแรงได้
  3. เมื่อไฟกระชากลัดวงจรเกิดขึ้นในระบบไฟฟ้าหรือวงจรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ไฟกระชากลัดวงจรจะส่งผลโดยตรงกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกและอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้เกิดการเสื่อมตัวของฉนวนและทำให้เกิดความเสียหายที่ร้ายแรง เช่น ทำให้เกิดรูขนาดเล็กหรือเกิดการลุกไหม้อย่างฉับพลัน
  4. ระบบไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกสที่เชื่อมต่อเข้ากันผ่านระบบเครือข่ายและสายเคเบิล ที่มีการรวมใช้ชิป IC (LSI, VLSI) ในปริมาณมาก ที่มีวงจรระบบที่ซับซ้อนมากขึ้น ไมโครอิเล็กทรอนิก กระแสไฟฟ้าเกิดการลัดวงจรได้แม้แต่ในช่วงวินาทีที่สั้น ทำให้การสลายตัว การเผาไหม้ของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกในบางส่วน แผงวงจรไฟฟ้าที่บางกว่า แรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่าของชิป IC ที่มีการรวมในปริมาณมากจะเปราะบางลงจากการกระชากของไฟ

ประเภทของความเสียหายที่ลูกค้าต้องการให้แก้ไขด้วย <eca3G>

  1. อุปกรณ์เสียหาย: ชิ้นส่วนเสื่อมสภาพ
    1. การช็อตสะสมของไฟกระชากหลายครั้งทำให้ระบบปิดตัวลงทันที
    2. ต้องเปลี่ยนการ์ดบ่อยครั้ง (ได้รับความเสียหาย)
    3. ไฟลัดช่องส่ง
    4. การสูญเสียฉนวนป้องกันวงจรไฟฟ้า
    5. ลดช่วงอายุการใช้งานของชิ้นส่วน
    6. อ่อนกำลัง: ระบบล้ม/ความผิดพลาดของระบบ
  2. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก
    1. ความเสียหายของ PCB
    2. ความผิดพลาดของการส่งข้อมูล
    3. หน่วยความจำเสียหาย - ระบบสุ่มหยุดทำงาน
    4. ฮาร์ดดิสก์เสียหาย
    5. SCR (ไทริสเตอร์) ชำรุด
    6. ระบบชำรุด
    7. โปรแกรมผิดพลาด 88.3% ของความเสียหายที่ไม่ทราบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกเกิดจากไฟกระชาก)
  3. สายการสื่อสาร/สารส่งสัญญาณ
    1. ความเสียหายของหน่วยจ่ายไฟเข้า/ออก
    2. เกิดอาร์คขึ้นที่การติดตามสัญญาณ
    3. การสื่อสารที่ผิดพลาดโดยไม่ทราบสาเหตุ สัญญาณผิดพลาด
  4. การดำเนินการที่ผิดพลาด
    1. ตัดไฟของ ELCB/RCCB บ่อยครั้ง
    2. ข้อผิดพลาดในการดำเนินการของระบบ
    3. จ่ายไฟออกแบบคาดไม่ถึง ตั้งค่าใหม่ เปลี่ยนโหมด
  5. ความเสียหายของหน่วยจ่ายไฟ
    1. ชิ้นส่วนของสารกึ่งตัวนำไฟฟ้า (SMPS) ถูกทำให้เสียหายได้ง่าย
    2. ไฟกระชากผ่านหน่วยจ่ายไฟเชิงเส้น ชิ้นส่วนภายในเสียหาย
    3. ตัดระบบไฟ DC (ตัดไฟตัวเรียงกระแส)
    4. ตัดไฟ หน่วยจ่ายไฟบกพร่อง

ไฟกระชากจากฟ้าผ่าทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก

ดิจิตอล